ซุปหน่อไม้
ซุปหน่อไม้เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและแพร่หลายในทุกภาคเนื่องจากมีกรรมวิธีการทำที่ง่ายๆและไม่ยุ่งยากใช้เครื่องปรุงที่มีอยู่ในครัว และหน่อไม้ก็หาได้ทั่วไปตามชนบท บางบ้านก็ปลูกหน่อไม้ไว้ข้างบ้าน
ซุปหน่อไม้เป็นอาหารที่เป็นที่นิยมของชาวอีสานเช่นกัน ซึ่งสามารถหากินได้แทบจะทุกจังหวัด แต่กรมวิธีในการปรุงซุปหน่อไม้นั้นอาจจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละถิ่น แต่ก็ไม่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงซุปหน่อไม้ก็เช่นเดียวกับอาหารอื่นๆของภาคอีสานคือจะมีรสจัดจ้าน และมีเครื่องปรุงหลักที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำปลาร้า เรียกได้ว่าชาวอีสานทุกครัวเรือน จะต้องมีน้ำปลาร้าประจำอยู่ในครัว ถ้าไม่มีอาหารอะไรก็จะเอาปลาร้ามาตำน้ำพริกรับประทานกับผักสดที่ปลูกอยู่ข้างบ้าน ถือเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายอย่างหนึ่งของชาวอีสาน ที่มีลักษณะการดำรงชีวิตแบบง่ายๆ คือ อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่รอบๆตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรู้จักประยุกต์ใช้ทรัพยากรในหลายๆด้าน
ซุปหน่อไม้เป็นอาหารที่เป็นที่นิยมของชาวอีสานเช่นกัน ซึ่งสามารถหากินได้แทบจะทุกจังหวัด แต่กรมวิธีในการปรุงซุปหน่อไม้นั้นอาจจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละถิ่น แต่ก็ไม่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงซุปหน่อไม้ก็เช่นเดียวกับอาหารอื่นๆของภาคอีสานคือจะมีรสจัดจ้าน และมีเครื่องปรุงหลักที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำปลาร้า เรียกได้ว่าชาวอีสานทุกครัวเรือน จะต้องมีน้ำปลาร้าประจำอยู่ในครัว ถ้าไม่มีอาหารอะไรก็จะเอาปลาร้ามาตำน้ำพริกรับประทานกับผักสดที่ปลูกอยู่ข้างบ้าน ถือเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายอย่างหนึ่งของชาวอีสาน ที่มีลักษณะการดำรงชีวิตแบบง่ายๆ คือ อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่รอบๆตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรู้จักประยุกต์ใช้ทรัพยากรในหลายๆด้าน
เครื่องปรุง
หน่อไม้รวกขูดเป็นเส้นฝอย = 300 กรัม
ใบย่านาง= 20 ใบ (15 กรัม )
น้ำคั้นจากใบย่านาง= 2 ถ้วย
น้ำปลาร้า= ½ ถ้วย (50 กรัม )
เกลือ = ½ ช้อนชา (4 กรัม )
น้ำปลา= 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม )
มะนาว= 23 ช้อนโต๊ะ (45 กรัม )
ผักชีฝรั่งซอย= 2 ต้น (7 กรัม )
ต้นหอมซอย=2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม )
ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบ= ½ ถ้วย (50 กรัม )
งาขาวคั่ว= 1 ช้อนชา (8 กรัม )
พริกป่น= 1 ช้อนชา (8 กรัม )
ข้าวเหนียว= 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม )
วิธีทำ
- นำหน่อไม้มาเผาไฟหรือต้มให้สุกนำมาขูดเป็นเส้นฝอยๆโดยใช้ส้อมหรือเข็มขูดตัดเป็นท่อนประมาณหนึ่งคืบ แล้วนำไปต้มให้หายขม
- ใบย่านาง คั้นให้ได้นำค้นเขียวประมาณ2ถ้วย
- คั่วงาโดยใช้ไฟอ่อนๆ แล้วร่อนเอาฝุ่นอกให้หมดโขลกให้ละเอียดเอาไว้โรยหน้าหรือจะโขกรวมกับซุปหน่อไม้ก็ได้
- หั่นผักทุกชนิดแบบฝอย หอมแดงเผา พริกสดเผา โขลกรวมกัน
- นำหน่อไม้มาบีบน้ำออกให้หมด ใส่ลงในนำใบย่านาง เติมเกลือน้ำปลาน้ำปลาร้าแล้วต้มให้น้ำย่านางสุกจนน้ำขลุกขลิก
- โขลกพริกและหัวหอมที่เผาแล้วให้ละเอียด ใส่เนื้อปลาลงโขลกใส่หน่อไม้ที่ต้มกับใบย่านางแล้วลงไป ปรุงรสอีกครั้งชิมดูรสตามความต้องการแล้วปล่อยให้เย็น โรยผักงาและพริกป่นที่เตรียมไว้ถ้าหากชอบรสเผ็ด
- จัดใส่จานรับประทานกับผักสดพื้นบ้าน
ข้อควรรู้
- ควรรับประทานหลังทำเสร็จใหม่ๆจะแซ้บที่สุด
- หน่อไม้ควรเป็นหน่อไม้ใหม่ๆและอ่อนเส้นหน่อไม้ที่ขูดควรเส้นเล็ก
- ถ้าไม่ชอบปลาร้าใส่นำปลาแทนก็ได้
- นำซุปหน่อไม้ควรจะขลุกขลิกเล็กน้อยและข้น
คุณค่าทางโภชนาการ
- นำหน่อไม้มาเผาไฟหรือต้มให้สุกนำมาขูดเป็นเส้นฝอยๆโดยใช้ส้อมหรือเข็มขูดตัดเป็นท่อนประมาณหนึ่งคืบ แล้วนำไปต้มให้หายขม
- ใบย่านาง คั้นให้ได้นำค้นเขียวประมาณ2ถ้วย
- คั่วงาโดยใช้ไฟอ่อนๆ แล้วร่อนเอาฝุ่นอกให้หมดโขลกให้ละเอียดเอาไว้โรยหน้าหรือจะโขกรวมกับซุปหน่อไม้ก็ได้
- หั่นผักทุกชนิดแบบฝอย หอมแดงเผา พริกสดเผา โขลกรวมกัน
- นำหน่อไม้มาบีบน้ำออกให้หมด ใส่ลงในนำใบย่านาง เติมเกลือน้ำปลาน้ำปลาร้าแล้วต้มให้น้ำย่านางสุกจนน้ำขลุกขลิก
- โขลกพริกและหัวหอมที่เผาแล้วให้ละเอียด ใส่เนื้อปลาลงโขลกใส่หน่อไม้ที่ต้มกับใบย่านางแล้วลงไป ปรุงรสอีกครั้งชิมดูรสตามความต้องการแล้วปล่อยให้เย็น โรยผักงาและพริกป่นที่เตรียมไว้ถ้าหากชอบรสเผ็ด
- จัดใส่จานรับประทานกับผักสดพื้นบ้าน
ข้อควรรู้
- ควรรับประทานหลังทำเสร็จใหม่ๆจะแซ้บที่สุด
- หน่อไม้ควรเป็นหน่อไม้ใหม่ๆและอ่อนเส้นหน่อไม้ที่ขูดควรเส้นเล็ก
- ถ้าไม่ชอบปลาร้าใส่นำปลาแทนก็ได้
- นำซุปหน่อไม้ควรจะขลุกขลิกเล็กน้อยและข้น
คุณค่าทางโภชนาการ
- วิตามิน เกลือแร่คาร์โบไฮเดรต
สรรพคุณทางยา
1. หน่อไม้ มีรสขมหวานร้อน
- รากรสอร่อยเอียนเล็กน้อย ใช้ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ
- ใบไผ่เป็นยาขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย
2. ย่านางมีรสจืดทั้งต้นนำมาปรุงเป็นยาแก้ไข้กลับ
- ใบ ใช้เป็นยาถอนพิษปรุงรวมกับยาอื่นแก้ไข้
- ราก แก้เบื่อเมา กระทุ้งพิษไข้ แก้เมาสุราถอนพิษผิดสำแดง
3. มะนาว เปลือกผลรสขม ช่วยขับลม น้ำในลูกรสเปรี้ยวแก้เสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน ฟอกโลหิต
4. ผักชี ช่วยละลายเสมหะแก้หัด ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เจริญอาหาร
5. ต้นหอม
- ใบ รสหวานเผ็ดเค็มฉุน แก้ไข้หวัดคัดจมูก น้ำมูกไหล แก้โรคตาแก้ไข้กำเดา
6. สะระแหน่
- ใบ/ยอดอ่อน รสหอมร้อน ขับเหงื่อแก้ปวดท้อง ขับลมในกระเพาะลำไส้ แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อแก้
1. หน่อไม้ มีรสขมหวานร้อน
- รากรสอร่อยเอียนเล็กน้อย ใช้ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ
- ใบไผ่เป็นยาขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย
2. ย่านางมีรสจืดทั้งต้นนำมาปรุงเป็นยาแก้ไข้กลับ
- ใบ ใช้เป็นยาถอนพิษปรุงรวมกับยาอื่นแก้ไข้
- ราก แก้เบื่อเมา กระทุ้งพิษไข้ แก้เมาสุราถอนพิษผิดสำแดง
3. มะนาว เปลือกผลรสขม ช่วยขับลม น้ำในลูกรสเปรี้ยวแก้เสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน ฟอกโลหิต
4. ผักชี ช่วยละลายเสมหะแก้หัด ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เจริญอาหาร
5. ต้นหอม
- ใบ รสหวานเผ็ดเค็มฉุน แก้ไข้หวัดคัดจมูก น้ำมูกไหล แก้โรคตาแก้ไข้กำเดา
6. สะระแหน่
- ใบ/ยอดอ่อน รสหอมร้อน ขับเหงื่อแก้ปวดท้อง ขับลมในกระเพาะลำไส้ แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อแก้
อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
7. งา
- เมล็ด รสฝาดหวานขมทำให้เกิดกำลัง ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
- น้ำมัน รสฝาดร้อนทำน้ำมันใส่แผล
8. พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยเจริญอาหาร ขับลมช่วยย่อย
9. ข้าวเหนียว รสมัน หอมหวาน บำรุงร่างกาย แก้ตาฟาง แก้เหน็บชาแช่น้ำตำเป็นแป้งพอกแก้ปวด
7. งา
- เมล็ด รสฝาดหวานขมทำให้เกิดกำลัง ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
- น้ำมัน รสฝาดร้อนทำน้ำมันใส่แผล
8. พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยเจริญอาหาร ขับลมช่วยย่อย
9. ข้าวเหนียว รสมัน หอมหวาน บำรุงร่างกาย แก้ตาฟาง แก้เหน็บชาแช่น้ำตำเป็นแป้งพอกแก้ปวด
ข้อมูลอ้างอิง http://history48.exteen.com/20070206/entry-4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น